การดูแลผู้ป่วยติดเตียง
เพื่อให้ง่ายและสามารถเข้าใจได้ ขอแบ่งผู้ป่วยติดเตียง โดยดูความสามารถในการฟื้นฟูเป็นหลัก ดังนึ้
1. ผู้ป่วยติดเตียงที่สามารถสื่อสาร รับรู้ได้
ผู้ป่วยติดเตียงที่สื่อสาร พูด-ฟัง ได้ปกติ สามารถกระตุ้นทำการฟื้นสภาพให้เก่งขึ้นได้ทุกคน มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายก่อนเจ็บป่วย ภาวะของโรค ความร่วมมือ ในการฟื้นสภาพ หรืออารมย์ซึมเศร้าที่เกิดร่วมด้วย
2. ผู้ป่วยติดเตียงที่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร แต่ ยังสามารถสื่อสาร เช่นอาจโดยการใช้ท่าทางแบบภาษาใบ้ สื่อสารผ่านรูปภาพ ยังเข้าใจ ภาษาระดับหนึ่ง สามารถกระตุ้นทำการฟื้นสภาพให้เก่งขึ้นได้ ความก้าวหน้า หรือความสำเร็จ มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านร่างกาย อารมย์ สภาพร่างกายก่อนเจ็บป่วย และโรคที่เป็นอยู่ เช่นเดียวกัน
3.ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถสื่อสารได้เลย แต่ไม่ได้มีภาวะสมองเสื่อมร่วม การทำกายภาพบำบัด การฟื้นสภาพ ก็สามารถ ฝึก ฟื้นฟู ให้เก่งขึ้นได้เช่นเดียวกัน
4.ผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อม ในรายที่อาการหลงลืมยังไม่มาก หรือมีอาการหลงลืมมากแล้วก็ตาม แต่ยังสามารถ เคลื่อนไหวร่างกายได้ ก็ยังสามารถทำการฟื้นฟูความแข็งแรง การเดิน การทรงตัว ได้อยู่ดี แต่ต้องใช้เวลา เพื่อเรียนรู้ และทำการฝึกซ้ำบ่อยๆ
จะเห็นว่าทุกคนสามารถฟื้นฟูให้แข็งแรง และเก่งขึ้น ถ้าได้รับการดูแล แบบใกล้ชิด เอาใจใส่ ใส่ใจรายละเอียดเฉพาะบุคคล เข้าใจข้อจำกัด ให้เวลา ให้ความเข้าใจ ให้กำลังใจ สามารถช่วยทุกคนให้ดีขึ้น และลดการเกิดโรคแทรกซ้อน เพื่อไม่ให้ต้องกลับเข้ารักษาใน รพ ใหม่ โดยไม่จำเป็นลดความเสี่ยง ลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ทั้งเงินทอง เวลา ที่เสียไป การบาดเจ็บเพิ่มขึ้น หรือสูญเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้นได้
เนื่องจากอุปสรรคที่สำคัญข้อหนึ่งของการฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยติดเตียงคือการติดเชื้อ การดูแลจึงควรเน้นเรื่องป้องกันการติดเชื้อมาอยู่ในขบวนการเดียวกับการฟื้นสภาพดว้ย โดยมีวิธีการต่อไปนี้
1.ดูแลความสะอาดส่วนตัวทั่วไป เช่น ในช่องปาก ลดจำนวนเชื้อที่อาจสำลักลงปอด ทำให้ปอดอักเสบ การล้างหลังขับถ่าย ทำความสะอาดเพื่อลดเชื้อที่สะสมและอาจเล็ดลอดเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ ทำใหเกิดติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
2.ดูแลความสะอาดสิ่งแวดล้อม สะอาด น่าอยู่ ลดการส่งผ่านเชื้อโรค จาก คนหนื่ง ไปอีกคนหนึ่ง หรือจากสิ่งของ เครื่องใช้ สิ่งรอบตัว ส่งผ่านไปยังบุคคล ทำให้ติดเชื้อได้
3.ดูแลความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ ตามมาตรฐานทางการแพทย์ มีการทำความสะอาดปลอดเชื้อ ตามเวลาที่เหมาะสม ลดการส่งผ่านของเชื้อโรคจากอุปกรณ์ที่ใช้ เข้าสู่ร่างกายโดยตรง เช่นสายออกซิเจน ให้ออกซิเจนทางจมูกไปเคยทำความสะอาดปลอดเชื้อเลย ทำให้มีการสะสมของเชื้อโรคได้ ส่งเชื้อเข้าปอดผ่านการให้ออกซิเจนโดยตรง
4.การป้องกันการสำลักน้ำลาย จากความสามารถในการกลืนลดลง
5.ส่งเสริมให้มีการเคลื่อนไหว บนเตียง นั่งข้างเตียง นั่งเก้าอี้ เกาะยืน เดิน โดยมีการกระตุ้น ดูความพร้อม ใหกำลังใจ ในเวลาที่เหมาะสม
